ทำฟันปลอม ทำฟันปลอมแบบทั้งปาก

ทำไมต้องใส่ฟันปลอม แล้วฟันปลอมมีกี่แบบ

ฟันปลอม หรือ ทางการแพทย์เรียกว่า ฟันเทียม จัดอยู่ในหมวดทันตกรรมประดิษฐ์ ถือเป็นการทดแทนฟันที่สูญเสียไปด้วยการทำฟันปลอมแบบติดแน่น หรือ ฟันปลอมแบบถอดได้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปากและฟันที่ท่านสูญเสียฟันไปว่าจำนวนน้อยหรือมาก โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาและให้คำแนะนำว่าควรเลือกทำฟันปลอมแบบไหนให้คนไข้แต่ละรายไป

ฟันปลอม คือ อะไร

ฟันปลอม หมายถึงฟันและเหงือกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป มีทั้งแบบติดแน่น และแบบถอดได้ และมีทั้งฟันปลอมซี่เดียว หรือ ทั้งปาก ฟันปลอมมีความจำเป็นใช้ในการทดแทนฟันที่สูญเสียไป เพื่อให้บดเคี้ยวอาหารได้คล่องตัว เสริมบุคลิกภาพให้สามารถออกเสียงได้ชัดเจน และเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

ข้อดีของการทำฟันปลอม

1. เพื่อความสวยงาม ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ
ใคร ๆ ก็ไม่อยากฟันหลอแน่ เพราะฉะนั้นหากมีการสูญเสียฟันธรรมชาติไปแล้ว ควรที่จะใส่ฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป ทั้งนี้การใส่ฟันปลอมยังทำให้รูปร่างบริเวณปาก แก้ม และคางมีความสมส่วน ช่วยเพิ่มความสวยงามให้แก่ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ส่งผลต่อบุคลิกภาพที่ดีให้กับคนไข้ทุกกลุ่ม

2. สามารถทานอาหารได้คล่องตัว
ผู้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติไปแล้ว ย่อมเกิดความลำบากในการทานอาหารเป็นอย่างมาก ดังนั้นการใส่ฟันปลอมจะช่วยให้ทานอาหารได้อย่างสะดวกคล่องตัวมากขึ้น แถมยังได้สุขภาพที่แข็งแรงขึ้นเพราะได้รับสารอาหารครบถ้วน

3. สามารถพูดและออกเสียงได้ชัดเจนขึ้น
ฟันมีความสำคัญต่อการพูดและออกเสียงมาก ดังนั้นหากใครก็ตามที่สูญเสียฟันไปจะทำให้พูดได้ไม่ชัด ดังนั้นการใส่ฟันปลอมจะช่วยให้พูดและออกเสียงได้ชัดเจนขึ้น

4. เพื่อป้องกันฟันข้าง ๆ ล้ม
เมื่อมีช่องว่างระหว่างฟันเกิดขึ้น ส่งผลให้ฟันบริเวณข้างเคียงมักจะล้มมาแทนที่ได้ ทั้งนี้การใส่ฟันปลอมจะช่วยป้องกันฟันข้าง ๆ ล้มมาแทนได้

ฟันปลอมมีกี่แบบ กี่ประเภท

ฟันปลอมแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือฟันปลอมแบบติดแน่น ฟันปลอมแบบถอดได้ และ ฟันปลอมแบบรากฟันเทียม

1. ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Prosthodontics)

คือฟันปลอมถาวรที่ยึดติดแน่นในช่องปาก อาศัยฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงกับช่องว่างในการยึดฟันปลอมเป็นหลัก มี 4 แบบด้วยกันคือ

1.1 ครอบฟัน (Crown)
เป็นฟันปลอมติดแน่นสำหรับครอบบริเวณฟันที่เสียหายไป ทำจากวัสดุโลหะ หรือเซรามิก ทันตแพทย์จะใช้การสร้างครอบฟันโดยทำหน้าที่บดเคี้ยวแทนฟันธรรมชาติและเป็นการรักษารากฟันไว้ปกป้องฟันเดิมที่เหลืออยู่

1.2 สะพานฟัน (Bridge)
คือ ทำเพื่อทดแทนฟันที่ถูกถอนไป โดยฟันปลอมชนิดนี้จะอาศัยการยึดติดแน่นที่จากฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงในการทำสะพานฟัน

1.3 การอุดฟันด้วยเซรามิก หรือ อินเลย์ ออนเลย์ Onlays และ Inlay
เป็นการอุดฟันด้วยเซรามิก จะมีการกรอฟันคล้ายๆกับการอุดฟัน แต่จะใช้เซรามิกในการอุดฟันแทน ซี่งขั้นตอนการทำการรักษาจะคล้ายๆกับการทำครอบฟันเซรามิก แต่จะมีการกรอเนื้อฟันน้อยกว่ามาก โดยทั่วไปจะทำในกรณีที่มีฟันผุ หรือฟันแตกจนเป็นโพรงขนาดใหญ่เกินกว่าจะอุดฟันด้วยวิธีตามปกติได้

1.4 วีเนียร์ฟัน (Veneer)
ทำฟันปลอมแบบติดแน่นด้วยการทำวีเนียร์ หรือ ทำเคลือบฟันเทียม เป็นวิธีการปิดแผ่นเคลือบฟันลงบริเวณผิวด้านหน้าฟัน เพื่อแก้ไขความบกพร่องของฟันแบบต่างๆ เช่น
• ฟันมีสีเข้ม
• ฟันห่าง
• ฟันซ้อนเกเล็กน้อย
• ฟันบิ่น ให้กลับมาสวยงามได้เหมือนธรรมชาติ
• ฟันที่มีรูปร่างผิดปกติ เช่น ฟันที่มีรูปร่างคล้ายฟันหนู หรือ ฟันซี่เล็กกว่าปกติ เป็นต้น

ข้อดีของฟันปลอมติดแน่น
• ฟันปลอมติดแน่นมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่หัก ไม่แตก ไม่หลุดง่าย
• มีประสิทธิภาพการใช้งานเทียบเท่าฟันธรรมชาติ
• ความสามารถในการบดเคี้ยวใช้งานได้ดี
• ฟันปลอมติดแน่นมีความสวยงามเทียบเท่าฟันธรรมชาติ
• ทำความสะอาดได้เหมือนฟันธรรมชาติ

ข้อเสียของฟันปลอมติดแน่น
• มีราคาค่อนข้างสูงกว่าฟันปลอมแบบถอดได้
• ต้องอาศัยการดูแลและทำความสะอาดอย่างดี
• หากใต้ครอบฟันมีการผุ แนะนำให้ไปพบทันตแพทย์
• ระยะเวลาการรักษานาน

2. ฟันปลอมแบบถอดได้
คือฟันปลอมที่มีฐานทำมาจากพลาสติก หรือโลหะ วางบนสันเหงือกหรือเพดาน เหมาะสำหรับคนไข้ที่ยังมีฟันธรรมชาติเหลือยู่บางส่วน หรืออาจไม่มีฟันเหลืออยู่เลยก็ได้ ซึ่งคนไข้สามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดได้เอง มีด้วยกัน 4 แบบ

2.1 ฟันปลอมฐานพลาสติก
เป็นฟันปลอมพลาสติกเป็นซี่ ๆ ยึดกับฐานฟันปลอมที่ทำจากอะคริลิกสีชมพู สามารถมีได้ตั้งแต่หนึ่งซี่ จนถึงหลายซี่ โดยจะมีตะขอที่ทำจากโลหะในการยึดเกี่ยวกับตัวฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่สำหรับฟันปลอมหลายซี่เพื่อให้ฟันปลอมยึดเกาะได้แน่นขึ้น ซึ่งฟันปลอมฐานพลาสติกมีข้อดีคือสามารถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ทำได้ง่าย ราคาไม่แพง

2.2 ฟันปลอมฐานยืดหยุ่น
หรือฟันปลอมถอดได้ มีลักษณะคล้ายฟันปลอมฐานพลาสติก โดยฐานของฟันปลอมจะทำด้วยวัสดุพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง มีข้อดีคือมีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีตะขอสีโลหะ ตกไม่แตกไม่ค่อยหัก ชิ้นงานจะมีความบางกว่าฟันปลอมฐานอะคริลิกทั่วไป ทำให้ใส่สบายมากกว่า

2.3 ฟันปลอมโครงโลหะ
เป็นฟันปลอมที่คล้ายฟันปลอมฐานพลาสติก เพียงแต่เปลี่ยนบริเวณฐานฟันปลอมให้เป็นโครงโลหะแทน ซึ่งซี่ของฟันปลอมจะเป็นพลาสติก มีข้อดีคือฐานโลหะจะเล็กบางกว่าฐานพลาสติก ใช้ในการบดเคี้ยวและการออกเสียงได้ง่ายกว่า ทนทานกว่า อายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี

2.4 ฟันปลอมทั้งปาก
กรณีที่คนไข้สูญเสียฟันไปทั้งหมด จะแนะนำให้ใส่ฟันปลอมทั้งปากเพื่อช่วยในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหาร การออกเสียงพูดใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซี่งตัวโครงของฟันปลอมทั้งปากมีให้เลือก 2 แบบคือ ฐานอะคริลิก กับ ฐานโลหะ

ฟันปลอมทั้งปากคืออะไร

การทำฟันปลอมถอดได้ทั้งปาก ใช้กับผู้ที่มีการสูญเสียฟันทุกซี่ในช่องปาก ซึ่งอาจเป็นฐานพลาสติก หรือ ฐานโลหะได้ ปัจจุบันมีทั้งแบบวางอยู่บนสันเหงือก และแบบที่มีการใช้รากเทียมเพื่อเป็นหลักยึดฟันปลอมถอดได้ทั้งปากมีการยึดอยู่ที่ดีขึ้น

ฟันปลอมทั้งปากใช้ในกรณีได้

• ใช้ในกรณีที่คุณสูญเสียฟันธรรมชาติทั้งหมดไป
• สันเหงือกของคุณเตี้ย ทำให้ใส่ฟันปลอมได้ในพอดี หลุดง่าย แก้ไขด้วยการปักรากฟันเทียมเป็นตัวยึดฟันปลอม
• ฟันปลอมแบบนี้จะถูกออกแบบมาให้พอดีกับสันเหงือก และสามารถใส่ได้ทันทีหลังถอนฟัน

ฟันปลอมทั้งปากมีกี่แบบ

ฟันปลอมทั้งปากมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ซึ่งมีส่วนประกอบคล้ายกันคือมีฐานฟันปลอมที่ทำจากอะคิลิกสีเนื้อสำหรับสวมครอบเหงือกมีทั้งแบบพลาสติกทั้งชิ้น หรือ ฐานโลหะ โดยฐานของฟันปลอมด้านบนจะคลุมทับเพดานปาก ฟันปลอมด้านล่างจะมีรูปร่างเหมือนเกือกม้า โดยเว้นช่องว่างสำหรับลิ้น แตกต่างกันคือ
1.ฟันปลอมทั้งปากแบบไม่มีตัวยึด
2.ฟันปลอมทั้งปากแบบมีตัวยึด โดยฟันปลอมยึดกับรากเทียม

1.ฟันปลอมทั้งปากแบบไม่มีตัวยึด

เป็นฟันปลอมทั้งปากแบบดั้งเดิม ฟันปลอมที่มีฐานด้านบนจะคลุมทับเพดานปาก ส่วนฟันปลอมด้านล่างจะมีรูปร่างคล้ายเกือกม้าวางบนสันเหงือกทั้งบนและล่าง โดยการยึดอยู่ของฟันปลอมต้องอาศัยแรงสูญญากาศจากฟันปลอมกับเพดานดูดกันและกัน จะมีปัญหาที่ฟันล่างจะหลุดง่ายมากเนื่องจากการเกิดสูญญากาศระหว่งฟันปลอมกับสันเหงือในฟันล่างจะเกิดยากมาก ฟันปลอมชนิดนี้จะอยู่ได้ดีต้องอาศัยการฝึกการใช้กล้ามเนื้อลิ้น แก้ม ริมฝีปาก เพื่อให้ฟันปลอมอยู่ได้และใช้งานได้ดี เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะเกิดอาการเหล่านี้ ได้แก่

• กระดูกเบ้าฟันเดิมจะทรุดตัวลง ความสูง สันเหงือกก็เริ่มเตี้ยลงจนกระทั้งแบนราบ
• ฟันปลอมหลวม ไม่กระชับ เวลาพูดอาจหลุดออกมา
• เวลากัดเคี้ยวขณะรับประทานอาหารฟันปลอมมักกดเหงือกเจ็บเนื่องจากฟันปลอมเคลื่อนที่
• คนไข้ฟันปลอมทั้งปาก อาจมีปัญหาที่ฟันปลอมล่างมากกว่าฟันปลอมบน เนื่องจากขากรรไกรบนมีเพดานปากที่โครงสร้างเป็นกระดูกแข็ง มีการละลายตัวน้อยมาก ดังนั้นเพดานแข็งยังช่วยพยุงฟันปลอมบนได้มากกว่าฟันปลอมล่างมี่มีลิ้นตรงกลาง เมื่อลิ้นขยับซ้ายขวาขึ้นลง ฟันปลอมล่างจึงโคลงไปมาพร้อมจะหลุดออกจากปากคนไข้ตลอดเวลา

2.ฟันปลอมทั้งปากแบบมีตัวยึด โดยฟันปลอมยึดกับรากเทียม

และต่อมาได้มีการพัฒนาให้ฟันปลอมยึดกับรากเทียม โดยรากเทียมทำหน้าที่ยึดกับสันเหงือกอีกทีหนึ่ง จึงสามารถแก้ปัญหาของฟันปลอมแบบดั้งเดิมทั้งหมด จะช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ไม่ต้องห่วงว่าฟันปลอมจะหลุดขณะทานอาหาร เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ใส่ฟันปลอมทั้งปากดีขึ้นมาก เหมาะกับผู้ที่สูญเสียไปทั้งปากเป็นเวลานาน และการละลายของกระดูกขากรรไกร สันเหงือก เนื่องจากกระดูกขากกรไกรมีการละลายตัวมากหลังถอนฟัน ซึ่งโดยรวมประโยชน์ของฟันปลอมทั้งปากแบบมีตัวยึดคือ

• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว
• การยึดอยู่ของฟันปลอมดีกว่า
• การออกเสียง การสนทนา เป็นธรรมชาติมากกว่า
• ไม่มีส่วนของฟันปลอมที่คลุมบนสันเหงือก จึงมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าใส่ฟันปลอมแบบดั้งเดิม
• สามารถถอดออกและทำความสะอาดง่ายกว่า

อาการที่เห็นเมื่อใส่ฟันปลอมทั้งปาก

• มีความรู้สึกเต็มปากเหมือนอมของชิ้นใหญ่ไว้ในปาก
• จะมีน้ำลายออกมามากกว่า เพราะเสมือนมีอาหารอมในปากตลอดเวลา ทำให้ต้องหัดกลืนน้ำลายลงไป ซึ่งอาจจะกลืนลำบาก แต่อาการนี้จะหายไปเองภายใน 1 เดือน
• ช่วงที่ใส่ฟันปลอมอาจจะพูดไม่ค่อยชัด ต้องหมั่นฝึกพูดขณะใส่ฟันปลอมในปาก

ทำไมต้องใส่ฟันปลอมทั้งปาก

• ทานอาหารได้สะดวก
ในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติจะมีความสามารถในการบดเคี้ยวที่น้อยกว่า ดังนั้นการมีฟันปลอมจะสามารถทานอาหารได้ดั่งใจ ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ทำให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น
• พูดได้ชัดขึ้น
ฟัน มีส่วนสำคัญในการออกเสียง หากมีฟันปลอมทั้งปากใส่จะยิ่งทำให้การพูดได้ชัดขึ้น
• ความสวยงาม
ฟันปลอมทั้งปากสามารถทำให้รูปร่างปาก แก้ม คางมีความสมส่วน ดูหน้าเด็กลง เพราะในผู้สูงอายุเองก็ต้องการความมั่นใจ รอยยิ้มที่สวยงามเช่นกัน
• ป้องกันฟันข้างเคียงล้ม
โดยธรรมชาติจะมีช่องว่างเกิดขึ้น ฟันบริเวณข้างเคียงก็มักจะล้มมาแทนที่ ทำให้เกิดความเสียหายได้

ข้อดีของฟันปลอมถอดได้
• มีค่าใช้จ่ายที่ถูก
• สามารถถอดฟันปลอมเข้าออกมาทำความสะอาดได้
• ไม่เกี่ยวกับฟันซี่ข้างเคียง
• ใช้เวลาเร็วกว่าฟันปลอมติดแน่น
• ทำความสะอาดได้เหมือนฟันธรรมชาติ

ข้อเสียของฟันปลอมถอดได้
• ระหว่างการใช้งานอาจจะหลวมหรือหลุดได้
• ฟันปลอมถอดได้ต้องใช้ตะขอเกี่ยวที่ฟันหน้า
• อาจเกิดอาการเจ็บหรือกดทับเหงือกได้เวลาที่เคี้ยวของแข็ง
• อาจมีเศษอาหารติดใต้ฐานฟันได้
• อาจเป็นแผลในช่องปากได้หากใช้งานหนัก ๆ

3. รากฟันเทียม (Dental Implants)

รากฟันเทียม ทำจากไททาเนียมที่สามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้อย่างดี ถือเป็นฟันปลอมที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุด โดยทันตแพทย์จะฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนรากฟันที่สูญเสียไป ส่วนด้านบนก็จะใช้ฟันปลอมแบบติดแน่น และแบบถอดได้ ยึดเข้ากับรากเทียมอีกที เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการที่จะใส่ฟันปลอมถอดได้

เคสไหนที่ต้องใส่ฟันปลอมบ้าง

• คนที่ฟันที่มีปัญหา หรือ รูปร่างฟันผิดปกติ เช่น ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหัก
• คนที่สูญเสียฟันในตรงตำแหน่งนั้นไป
• เมื่อถอนฟันหรือสูญเสียฟันจะต้องใส่ฟันปลอมทันที
• หลังถอนฟันเป็นเวลาหกเดือน กระดูกและเหงือกจะหดตัวลง ทำให้ต้องมีการปรับแต่ง เปลี่ยนฟันปลอมให้เข้ากับโครงสร้างที่เปลี่ยนไป
• คนที่ใส่ฟันปลอมอยู่แต่ฟันปลอมไม่เข้ากัน ไม่พอดี จึงต้องมีการปรับฟันปลอมใหม่ให้กระชับ

เลือกทำฟันปลอมแบบไหนดี

การเลือกทำฟันปลอม ควรเลือกจากการใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบของฟันของคนไข้
หากคนไข้ยังมีฟันธรรมชาติเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก แนะนำให้ใช้รากฟันเทียม หรือ ฟันปลอมแบบถอดได้บางส่วน หรือหากต้องการทำฟันปลอมเพียง 1-2 ซี่ แนะนำให้ทำฟันปลอมฐานยืดหยุ่นเพื่อใช้งานได้สะดวก
หากคนไข้ไม่มีฟันเหลืออยู่เลย หรือเหลือเพียงไม่กี่ซี่ แนะนำให้ถอนฟันออกและใช้ฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งช่องปาก หรือฟันปลอมถอดได้ทั้งปากแบบยึดบนรากฟันเทียมเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีขึ้น

วิธีดูแลฟันปลอม

• ต้องจำไว้ว่า ฟันปลอมมีความบอบบาง โอกาสที่จะตกหล่นแตกเสียหายก็มีได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
• เวลาไม่ใส่ฟันปลอม แนะนำให้วางในน้ำยาแช่ฟัน หรือในน้ำเปล่า ที่สำคัญไม่ควรใช้น้ำร้อนเพราะโอกาสบิดเบี้ยวมีได้เช่นกัน
• วิธีแปรงฟันปลอม ควรเริ่มจากการแปรงเหงือก ลิ้น เพดานปาก ในทุกครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหาร คราบแบคทีเรีย น้ำยาทำความสะอาดช่วยได้แต่ไม่สามารถแทนการแปรงทุกวันได้
• เลือกแปรงที่มีขนแปรงอ่อนนุ่มก่อนที่จะสวมใส่ฟันปลอม เพราะจะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
• พบทันตแพทย์ทันที หากฟันปลอมแตก หัก บิ่น แตก หลวม
• ห้ามปรับฟันปลอมด้วยตัวเองเพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้

ในการที่จะตัดสินใจเลือกชนิดของฟันปลอมที่เหมาะกับตัวเรา สิ่งที่ควรพิจารณาคือ ลักษณะการใช้งาน วิธีการดูแลและการทำความสะอาดฟันปลอม รวมไปถึงราคาที่มีความแตกต่างกัน หากใครที่กำลังมีความคิดที่อยากจะทำฟันปลอม ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ รวมทั้งข้อดีข้อเสียมาเปรียบเทียบได้หตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลได้เลย

เคสตัวอย่าง ก่อนและหลัง ทำฟันปลอม

โปรโมชันทำฟันปลอม

– Coming Soon –

ดูที่ตั้งสาขาของ คลินิกทันตกรรมสกายเทรน ใกล้บ้านท่าน

คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน สุขุมวิท
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน บางจาก
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน สยาม
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน อุดมสุข
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน แบริ่ง
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน อ่อนนุช
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน ปุณณวิถี
คลินิกทำฟัน คลินิกจัดฟัน ราม 2 สไมล์
โปรทำฟัน
โปรจัดฟัน
เลือกสาขา