วัสดุที่ใช้ในการอุดฟัน มีกี่แบบ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
วัสดุที่ใช้ในการอุดฟันที่เป็นที่นิยม มี 3 ชนิด ได้แก่ วัสดุอุดโลหะ (อะมัลกัม) , วัสดุอุดสีเหมือนฟัน (เรซินคอมโพสิต) และ เซรามิก
1. วัสดุอุดฟันโลหะ หรือ อะมัลกัม
ข้อดี
• แข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับแรงบดเคี้ยวได้ดี
• ทนต่อการสึกกร่อน
• มีราคาถูกกว่าการอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน
ข้อเสีย
• มีการกรอเนื้อฟันเพื่อรองรับวัสดุอุดมากกว่าการอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน
• มีสีไม่สวย
2. วัสดุสีเหมือนฟัน หรือเรซินคอมโพสิต
ข้อดี
• ให้ความสวยงาม เพราะมีสีเหมือนฟัน
• สามารถเลือกสีที่เหมือนกับฟันของแต่ละบุคคลได้
• มีการกรอเนื้อฟันเพื่อรองรับวัสดุอุดน้อยกว่าการอุดฟันด้วยโลหะ
• สามารถซ่อมแซมได้ ถ้ามีการแตกหักเกิดขึ้น
ข้อเสีย
• มีอายุการใช้งานต่ำกว่าอะมัลกัม
• มีความแข็งแรงน้อยกว่า มีโอกาสแตกหักได้ง่าย
• สามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อใช้ไปนานๆ
• มีค่ารักษาที่สูงกว่าการอุดฟันด้วยวัสดุโลหะ
3. วัสดุสีเหมือนฟันเซรามิก หรือ พอร์ซเลน (Inlay / Onlay)
ข้อดี
• มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการแตกหัก สึกกร่อนได้มากกว่าวัสดุอุดฟันคอมโพสิต และ อะมัลกัม
• ให้ความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมาก
• สามารถเลือกสีที่เหมือนกับฟันของแต่ละบุคคลได้
• ไม่มีการเปลี่ยนสีเมื่อใช้ไปนานๆ
• มีอายุการใช้งานที่นานมากกว่าการอุดฟันด้วยคอมโพสิต และ อะมัลกัม
ข้อเสีย
• มีราคาสูงกว่าการอุดฟันแบบทั่วไป
• จะต้องมาทำการรักษา 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจะต้องมีการพิมพ์ฟันเพื่อส่งไปทำชิ้นงานที่ห้องแลปทันตกรรม ซึ่งจะมีการอุดด้วยวัสดุชั่วคราวให้คนไข้ไปก่อน
• หลังจากทำครั้งแรกไปแล้ว รอประมาณ 3-5 วัน จึงนัดมาเพื่อทำการยึดชิ้นงานอินเลย์ หรือออนเลย์อีกครั้ง
คลิกดูรายละเอียด ->> บริการอุดฟัน