ปวดฟันแล้วแปลว่าต้องถอนฟันเสมอไปหรือไม่?

อาการปวดฟันเป็นสัญญาณเตือนที่หลายคนกังวลว่าต้องมีการถอนฟัน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องในทุกกรณี อันที่จริงแล้ว การถอนฟันเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ทันตแพทย์จะใช้เมื่อไม่มีวิธีรักษาอื่นใดที่สามารถรักษาฟันได้อีกต่อไป การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการปวดฟันและวิธีการรักษาอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณรักษาฟันไว้ได้ในระยะยาว

ในบทความนี้เราจะมาดูสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดฟัน และอธิบายถึงวิธีการรักษาและการดูแลฟันเพื่อหลีกเลี่ยงการถอนฟัน ทั้งนี้ยังมีทางเลือกการรักษาที่ทันตแพทย์สามารถใช้เพื่อช่วยฟื้นฟูฟันที่เสียหายได้ ดังนั้นการปวดฟันไม่ได้หมายความว่าจะต้องถอนฟันเสมอไป

อาการปวดฟันคืออะไร?

อาการปวดฟันคือความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวดบริเวณฟันหรือเหงือก อาจเป็นการปวดอย่างต่อเนื่องหรือเป็นช่วงๆ โดยความรุนแรงของอาการปวดอาจแตกต่างกันไป บางคนอาจปวดเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางคนอาจปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
อาการปวดฟันนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และทันตแพทย์จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ปัญหาลุกลามและต้องมีการรักษาที่ซับซ้อนขึ้น

สาเหตุของอาการปวดฟันที่พบบ่อย

อาการปวดฟันสามารถเกิดจากปัญหาหลายประการในช่องปาก เราจะมาดูสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งสามารถนำไปสู่การรักษาได้อย่างถูกต้อง:

1. ฟันผุ
ฟันผุเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดฟัน ฟันผุเกิดจากการสะสมของคราบพลัคและแบคทีเรียที่ทำลายเคลือบฟัน หากไม่ได้รับการรักษา ฟันผุจะลุกลามเข้าไปในเนื้อฟันและทำให้เกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง
การป้องกันฟันผุทำได้โดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และการพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันเป็นระยะ หากฟันผุยังไม่ลุกลามจนถึงรากฟัน การอุดฟันเป็นวิธีการรักษาที่ง่ายและได้ผลดี

2. เหงือกอักเสบ
เหงือกอักเสบเกิดจากการสะสมของคราบพลัคที่ขอบเหงือก ทำให้เกิดการอักเสบ บวม และมีอาการปวด อาการเหงือกอักเสบที่ปล่อยไว้นานอาจทำให้ฟันหลวมและฟันร่วงได้
การรักษาเหงือกอักเสบเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดฟันและเหงือกโดยทันตแพทย์ การขูดหินปูน (Scaling) และการเกลารากฟัน ทำความสะอาดลึก (Root planing) จะช่วยลดคราบพลัคและการอักเสบได้

3. ฟันคุด
ฟันคุดคือฟันที่ไม่สามารถงอกขึ้นมาในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้เกิดการอักเสบและปวด ฟันคุดมักจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อเกิดการติดเชื้อหรือการอักเสบซ้ำๆ หากฟันคุดไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ทันตแพทย์อาจไม่จำเป็นต้องถอน แต่ถ้ามีการอักเสบซ้ำหรือสร้างความเจ็บปวด การถอนฟันคุดจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

4. ฟันแตกหรือร้าว
ฟันที่แตกหรือร้าวมักเกิดจากการกัดอาหารแข็งหรือการเกิดอุบัติเหตุ ฟันที่ร้าวสามารถทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารเย็นหรือร้อน การรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของรอยร้าว บางครั้งอาจต้องการการครอบฟันเพื่อป้องกันการแตกมากขึ้น

5. การติดเชื้อที่รากฟัน
การติดเชื้อที่รากฟัน (Abscess) เกิดจากการสะสมของหนองในเนื้อฟันหรือเหงือก ซึ่งเป็นผลมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อรุนแรงนี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดที่รุนแรงและมักต้องการการรักษาเร่งด่วน เช่น การรักษารากฟัน หรือในบางกรณีจำเป็นต้องถอนฟัน

เมื่อใดที่ต้องถอนฟัน

การถอนฟันเป็นวิธีสุดท้ายที่ทันตแพทย์จะใช้เมื่อไม่มีวิธีอื่นในการรักษาฟันที่เสียหาย อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่การถอนฟันอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา

– ฟันผุจนไม่สามารถรักษาได้
ในกรณีที่ฟันผุลึกจนถึงรากฟันและไม่สามารถอุดฟันหรือครอบฟันได้ การถอนฟันจะช่วยป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อที่อาจแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบๆ หรือฟันซี่อื่นๆ
– การติดเชื้อที่รุนแรง
การติดเชื้อที่รุนแรงในรากฟันมักเกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในโพรงฟัน ซึ่งทำให้เกิดหนองและอาการปวดที่รุนแรง หากการรักษารากฟันไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และเชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบๆ การถอนฟันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหยุดการแพร่กระจายของเชื้อและป้องกันการอักเสบลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เช่น กระดูกขากรรไกร หรือในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายมาก
– ฟันคุดที่อักเสบซ้ำ
ฟันคุดที่ไม่สามารถงอกขึ้นมาในตำแหน่งที่ถูกต้องมักทำให้เกิดการอักเสบซ้ำๆ และอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ หากฟันคุดทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือการอักเสบที่ซ้ำซาก ทันตแพทย์มักแนะนำให้ถอนฟันคุดเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว ฟันคุดที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลให้เกิดการทำลายฟันซี่ข้างเคียงหรือโครงสร้างเหงือกและกระดูกได้

ทางเลือกการรักษาอาการปวดฟันโดยไม่ต้องถอนฟัน

แม้ว่าอาการปวดฟันอาจทำให้รู้สึกว่าการถอนฟันเป็นทางออกเดียว แต่จริงๆ แล้วมีวิธีการรักษาหลายอย่างที่สามารถช่วยรักษาฟันไว้ได้ หากการตรวจพบปัญหาทันเวลา การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพฟันและป้องกันการสูญเสียฟันได้

1. การอุดฟัน
การอุดฟันเป็นวิธีการรักษาที่ยอดเยี่ยมสำหรับฟันผุที่ยังไม่ลุกลามไปจนถึงรากฟัน ทันตแพทย์จะทำการขจัดส่วนที่เสียหายออกและใช้วัสดุอุดฟันเพื่อปิดช่องว่างที่เกิดขึ้น วิธีนี้ช่วยป้องกันการติดเชื้อและหยุดยั้งการแพร่กระจายของการผุไปยังส่วนอื่นของฟัน การอุดฟันยังช่วยลดอาการปวดและฟื้นฟูความสามารถในการใช้งานของฟันได้ดี
2. การรักษารากฟัน
หากการผุลึกถึงรากฟันหรือมีการติดเชื้อในรากฟัน การรักษารากฟัน (Root Canal Therapy) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาฟันไว้ ทันตแพทย์จะทำการขจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อในโพรงฟันและรากฟันออก จากนั้นจึงทำการอุดโพรงรากฟันเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ การรักษารากฟันช่วยให้สามารถเก็บรักษาฟันเดิมไว้ได้โดยไม่ต้องถอน
3. การครอบฟัน
สำหรับฟันที่มีความเสียหายมาก เช่น ฟันที่แตกหรือร้าว การครอบฟัน (Dental Crown) เป็นวิธีการที่ช่วยฟื้นฟูฟันให้กลับมาแข็งแรงและใช้งานได้อีกครั้ง ฟันที่ได้รับการครอบจะถูกป้องกันจากการแตกหรือเสียหายเพิ่มเติม ทำให้สามารถใช้งานได้เหมือนฟันปกติ การครอบฟันยังเป็นวิธีที่เหมาะสมในการรักษาฟันหลังการรักษารากฟันเพื่อป้องกันการกลับมาของการติดเชื้อ
4. การรักษาเหงือกอักเสบ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงือกอักเสบ ทันตแพทย์จะทำการรักษาด้วยการขูดหินปูน (Scaling) และการทำความสะอาดเหงือกอย่างลึก (Root Planing) เพื่อขจัดคราบพลัคและหินปูนที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ เมื่อทำความสะอาดลึกแล้ว เหงือกจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ การรักษาเหงือกอักเสบนี้ช่วยลดอาการปวดและป้องกันการสูญเสียฟันในอนาคต

การดูแลรักษาฟันเพื่อป้องกันอาการปวดฟัน

การป้องกันอาการปวดฟันเริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี การดูแลฟันอย่างถูกวิธีสามารถช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพฟันที่รุนแรงได้ ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันเพื่อป้องกันอาการปวดฟัน:

  • การแปรงฟันอย่างถูกวิธี
    การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์จะช่วยป้องกันฟันผุและการสะสมของคราบพลัคได้ การใช้แปรงฟันที่มีขนแปรงนุ่มและการแปรงอย่างถูกวิธีคือการแปรงเป็นวงกลมเล็กๆ โดยเน้นบริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน
  • การใช้ไหมขัดฟัน
    การใช้ไหมขัดฟันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดซอกฟัน ซึ่งเป็นบริเวณที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ คราบพลัคและเศษอาหารที่ตกค้างในซอกฟันสามารถนำไปสู่การฟันผุและโรคเหงือกได้ ดังนั้นการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวันจึงเป็นสิ่งจำเป็น
  • การใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์
    การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันและลดความเสี่ยงของการฟันผุได้ นอกจากนี้ การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์หรือสารที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุและโรคเหงือกได้
  • การพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
    การพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและทำความสะอาดฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งเป็นสิ่งสำคัญ ทันตแพทย์จะช่วยตรวจหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะเริ่มต้นและให้คำแนะนำในการดูแลฟันอย่างถูกต้อง การตรวจฟันเป็นประจำช่วยลดโอกาสของการเกิดฟันผุและโรคเหงือกที่รุนแรง

สรุป

การปวดฟันไม่จำเป็นต้องแปลว่าคุณต้องถอนฟันเสมอไป การทำความเข้าใจสาเหตุของอาการปวดฟันและการรักษาที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คุณรักษาฟันไว้ได้ในระยะยาว การรักษาทันเวลาจะช่วยป้องกันการสูญเสียฟันและทำให้คุณสามารถมีสุขภาพฟันที่แข็งแรงต่อไปได้ การดูแลสุขภาพฟันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพบทันตแพทย์เป็นประจำจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาฟันที่รุนแรงและซับซ้อน

คลินิกทันตกรรม สกายเทรน เด็นทรัล กรุ๊ป Skytrain Dental Group

หากคุณต้องการปรึกษาอาการปวดฟัน สามารถขอคำแนะนำกับเราได้ตลอดที่ คลินิกทันตกรรม สกายเทรน เด็นทรัล กรุ๊ป โดยเราแนะนำให้เลือกทำกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง คลินิกที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมที่ได้รับการรับรองอย่างมีมาตรฐาน ทั้งนี้สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมทันตแพทย์ของ Skytrain Dental Group  ก่อนได้ทุกเวลา หรือเข้าชมผลงานด้านทันตกรรมทุกประเภทได้ที่ www.skytraindental.com

Share:
โปรทำฟัน
โปรจัดฟัน
เลือกสาขา