INSTRUCTION AFTER TEETH CLEANING

INSTRUCTION AFTER TEETH CLEANING

Dental cleaning, or scaling, is a method used to remove tartar deposits that accumulate on and between the teeth. This is done using a high-frequency ultrasonic scaler. Tartar that firmly adheres to the tooth neck and root can lead to gum disease, and if left untreated for an extended period, it may become a cause of periodontal disease.

After Dental cleaning

• You may experience gum pain for at least 1-2 days. If there is significant inflammation due to long-term tartar buildup, the pain may last more than 2 days.

• The gums may appear dark red or bruised after tartar removal. This is because the inflamed gums, previously covered by tartar, become more visible once the tartar is removed.

• Tooth sensitivity may occur for about a week. In cases of long-term tartar buildup, once the tartar is removed, and the gums begin to heal and retract, it is a normal part of the healing process. The retraction of swollen, red gums can make the teeth appear longer.

• After the gums have healed from the inflammation, if there was significant inflammation, the gums may retract more, making the teeth look longer and possibly causing sensitivity to hot or cold liquids or air. This is due to the exposure of parts of the tooth root near the gum line, and food particles may get trapped in the spaces between teeth.

• If there is extensive tartar buildup, including under the gums, scaling alone may not remove all of it. If tartar remains under the gums (noticeable after scaling when the gums have healed, and tartar is visible on the tooth root), deep cleaning may be necessary to remove the subgingival tartar and inflamed tissue. If scaling is done without deep cleaning, it may lead to future gum swelling, tenderness when pressed, or bleeding.

คำแนะนำหลังการขูดหินปูน

การขูดหินปูน (Dental Cleaning)เป็นวิธีการกำจัดคราบหินปูนที่เกาะอยู่ตามบริเวณฟันและซอกฟัน โดยใช้เครื่องมือที่มีคลื่นความถี่สูง (Ultrasonic Scaler) เพื่อทำการกำจัดเอาหินปูนออก
หินปูนที่เกาะแน่นที่คอฟันและรากฟันจะทำให้เกิดโรคเหงือกหรือถ้าสะสมอยู่นานอาจทำให้เป็นสาเหตุของโรคปริทันต์ได้

หลังจากขูดหินปูนแล้ว

• อาจรู้สึกเจ็บเหงือกอย่างน้อย 1-2 วัน (ถ้ามีเหงือกอักเสบมากในกรณีที่หินปูนสะสมเป็นเวลานาน อาจจะมีการเจ็บเหงือกมากกว่า 2วัน)
• ลักษณะของเหงือกหลังจากขูดหินปูนอาจจะมีลักษณะแดงก่ำหรือมีสีแดงช้ำๆ เนื่องจากเวลาเอาหินปูนออกแล้ว เหงือกอักเสบที่ถูกหินปูนปิดอยู่เป็นเวลานานจะปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
• อาจมีอาการเสียวฟันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ (กรณีที่หินปูนสะสมเป็นเวลานาน จะทำให้เหงือกอักเสบมากเมื่อเอาหินปูนออกแล้วเหงือกก็จะมีการหายหรือสมานตัว ซึ่งเป็นกระบวนการหายของแผลตามปกติ ส่งผลให้เหงือกที่บวมแดงอยู่ เกิดอาการหดตัวเลยทำให้ดูฟันยาวขึ้น
• หลังจากที่เหงือกได้สมานตัวจากการอักเสบแล้ว ในกรณีที่เหงือกอักเสบมากก็จะมีการหดตัวของเหงือกมาก ส่งผลให้ฟันดูยาวขึ้นและอาจมีการเสียวฟันเวลาโดนน้ำร้อน น้ำเย็นหรือลม เนื่องจากรากฟันบางส่วนที่ใกล้กับคอฟันโผล่เหงือกขึ้นมา นอกจากนี้อาจมีเศษอาหารติดตามซอกฟันได้
หากหินปูนสะสมอยู่มากและมีหินปูนใต้เหงือกด้วยการขูดหินปูนเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถขูดออกได้หมด (กรณีมีหินปูนใต้เหงือก สังเกตได้จากภายหลังที่คนไข้ขูดหินปูนไปแล้วและเหงือกมีการสมานตัวแล้ว คนไข้จะเห็นหินปูนเกาะตามรากฟัน) ถ้าเป็นเช่นนี้ต้องทำการเกลารากฟัน เพื่อเอาหินปูนใต้เหงือกและเนื้อเยื่อที่อักเสบออก ซึ่งถ้าขูดหินปูนเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้เกลาฟันร่วมด้วย ในอนาคตก็อาจจะทำให้เหงือกบวม รู้สึกเจ็บเวลากดหรือมีเลือดออกได้

และที่สำคัญกรณีที่เหงือกอักเสบมากหรือมีหินปูนสะสมอยู่มาก ควรกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูอีกครั้งภายหลังจากขูดหินปูนหรือเกลารากฟันไปแล้ว

โปรทำฟัน
โปรจัดฟัน
เลือกสาขา