[FAQs] การรักษารากฟัน และการใส่ รากฟันเทียม

รวมคำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการรักษารากฟัน (Root Canal Treatment) และการใส่รากฟันเทียม (Dental Implants)

การรักษารากฟัน(Root Canal Treatment) เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่ใครหลายๆคนคิด ไม่จำเป็นต้องมีอายุมากถึงจะต้องรักษารากฟัน ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนควรทำเป็นอย่างยิ่งคือการตรวจสุขภาพฟันและเหงือกอยู่เป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หากพบว่าฟันซี่ไหนมีปัญหา จะได้ทำการรักษารากฟันโดยทันที และไม่ปล่อยให้ฟันซี่นั้นๆมีสภาพแย่ไปกว่าเดิม

ส่วนคนที่ตรวจพบฟันที่มีปัญหา และต้องเข้ารับการรักษารากฟันในเร็วๆนี้ อาจจะมีความรู้สึกกลัวอยู่บ้างไม่มากก็น้อย มีคำถามมากมายที่อยากจะได้คำตอบก่อนที่จะรักษารากฟัน จะได้เตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อม ทางสกายเทรนจึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษารากฟัน เพื่อที่จะไขข้อสงสัย และทำให้ผู้ที่มาใช้บริการที่คลินิกทำฟันสกายเทรนมั่นใจในฝีมือของทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา

• การรักษารากฟันคืออะไร

การรักษารากฟัน คือ การรักษาฟันที่ผุกร่อนลึกเข้าไปจนถึงโพรงประสาทฟัน ซึ่งไม่สามารถใช้การอุดฟันแก้ปัญหาได้ บางครั้งอาจส่งผลให้แบคทีเรียสามารถเข้าไปด้านใน และเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในเวลาต่อมา การรักษารากฟันจึงเป็นวิธีที่จะช่วยรักษาฟันให้มีจำนวนครบดังเดิม โดยจะทำการกำจัดเนื้อเยื่อประสาทฟันส่วนที่อักเสบหรือติดเชื้อออก ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโพรงประสาทฟันฟัน และอุดฟันเพื่อปิดรอยผุกร่อนนั้นๆเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการรักษารากฟัน

• สาเหตุที่ทำให้ฟันมีปัญหาจนถึงขั้นต้องรักษารากฟัน มีอะไรบ้าง

สาเหตุที่ทำให้ต้องรักษารากฟัน คือ เกิดจากฟันซี่ที่มีการผุกร่อนลึกเข้าไปจนถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปากสามารถเข้าไปด้านใน ก่อให้เกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อที่เนื้อเยื่อประสาทฟันได้ ซึ่งฟันซี่ที่มีการอุดฟันเรียบร้อยแล้วก็สามารถเกิดอาการนี้ได้เช่นกันถ้าวัสดุที่ใช้อุดฟันมีรอยรั่ว หรือแม้แต่เกิดอุบัติเหตุบางอย่างจนทำให้ฟันแตก ก็สามารถเป็นสาเหตุของการติดเชื้อแบคทีเรียภายในโพรงประสาทฟัน และต้องทำการรักษารากฟันในที่สุด

• อาการที่เป็นสัญญาณว่าต้องได้รับการรักษารากฟัน มีอาการแบบไหนบ้าง

ถ้าคุณมีอาการใดอาการหนึ่งดังต่อไปนี้ ควรรีบติดต่อนัดพบทันตแพทย์ เพื่อทำการเอ็กซเรย์และตรวจฟันแบบละเอียด หากภายในโพรงประสาทฟันมีการติดเชื้อจริง จะได้รีบทำการรักษารากฟันก่อนที่จะสายเกินไป
– เสียวฟันเมื่อทานของร้อนหรือเย็น
– เวลาเคี้ยวหรือกัดจะรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที
– มีตุ่มหนองที่เหงือก
– ฟันมีรอยร้าว ฟันแตก
– เหงือกอักเสบ เหงือกบวม
– เหงือกมีสีคล้ำกว่าปกติ
– ฟันมีสีคล้ำกว่าปกติ

• ถ้าปล่อยไป ไม่ยอมรักษารากฟัน จะเกิดอะไรขึ้น

ถ้าไม่ยอมรักษารากฟัน แบคทีเรียที่เข้ามาภายในโพรงประสาทฟันและทำให้เนื้อเยื่อประสาทฟันบริเวณนั้นเกิดการติดเชื้อ จะค่อยๆแพร่เชื้อลามลงมาที่รากฟัน สุดท้ายก็จะเกิดเป็นตุ่มหนองตรงปลายรากฟัน ผลที่จะตามมาก็คือใบหน้า คอ หรือศีรษะมีอาการบวม สูญเสียเนื้อกระดูกบริเวณปลายรากฟัน และอาจมีโพรงทะลุไปยังกระพุ้งแก้มต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งทะลุเข้าชั้นผิวหนัง เพราะฉะนั้นไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด หากต้องการคำแนะนำสำหรับการรักษารากฟัน สามารถติดต่อเข้ามาตามช่องทางการติดต่อต่างๆของคลินิกสกายเทรนได้ทุกสาขา ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

• ทันตแพทย์ที่ทำการรักษารากฟัน เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางด้านนี้หรือเปล่า

สำหรับคลินิกสกายเทรนทุกสาขา เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางรักษารากฟันโดยตรง ไม่ต้องกังวลเลยว่าการรักษารากฟันของคุณจะไม่สำเร็จ ทันตแพทย์ของเรามีทั้งความรู้และประสบการณ์การรักษารากฟันมาหลายเคส สามารถวางแผนการรักษาได้มีประสิทธิภาพ ทำให้เรายังคงรักษารากฟันซี่นั้นๆไว้ได้ และจะอยู่กับคุณไปอีกนานถ้าทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด

• ตอนทำการรักษารากฟัน เจ็บไหม

ไม่เจ็บแน่นอน เพราะก่อนที่จะเริ่มการรักษารากฟันจะมีการฉีดยาชาให้กับคนไข้ เพื่อลดอาการเจ็บปวด เหมือนกับเวลาเราผ่าหรือถอนฟันคุด และสำหรับผู้ที่มาใช้บริการที่คลินิกสกายเทรนทุกสาขา ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าการรักษารากฟันจะเจ็บ เพราะทีมทันตแพทย์ของสกายเทรนมือเบามากๆ

• ขั้นตอนการรักษารากฟันเป็นยังไง มีขั้นตอนอะไรบ้าง

การรักษารากฟันจะเริ่มจากการเอ็กซเรย์ฟันซี่นั้นๆ เพื่อดูสภาพของโพรงประสาทฟันว่ามีลักษณะผิดปกติแบบไหน มีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเปล่า เมื่อทันตแพทย์แน่ใจแล้วว่าฟันซี่นั้นๆมีปัญหาตรงไหนบ้าง ก็จะเริ่มการรักษารากฟันทันที

ทันตแพทย์จะฉีดยาชาที่บริเวณใกล้ๆกับฟันซี่ที่มีปัญหา เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์ก็จะทำการกรอเพื่อเปิดโพรงประสาทฟัน ขั้นตอนต่อไปของการรักษารากฟันก็คือการกำจัดเนื้อเยื่อประสาทฟันที่ติดเชื้อและแบคทีเรียออก ตั้งแต่ส่วนที่เริ่มติดเชื้อจนถึงส่วนปลายราก ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะสำหรับการรักษารากฟัน ซึ่งมีลักษณะเรียวเล็กคล้ายกับเข็มทำให้สอดเข้าไปด้านในเพื่อเอาเนื้อเยื่อประสาทฟันที่ติดเชื้อออกมา

ขั้นตอนนี้จะเป็นตัวกำหนดระยะเวลาในการรักษารากฟัน ถ้ามีการการติดเชื้อที่รากฟันอันอื่นด้วย ทันตแพทย์จะใช้โซเดียมไฮโปคลอไรด์เพื่อล้างทำความสะอาดเชื้อโรคอีกครั้ง จากนั้นจึงจะทำการอุดชั่วคราวไว้ และทำการนัดเพื่อมารักษารากฟันอีกจนกว่ารากฟันทั้งหมดที่ติดเชื้อจะถูกรักษาจนเรียบร้อย แต่ถ้ารากฟันอันอื่นๆไม่ได้มีปัญหา ทันตแพทย์ก็จะทำการอุดฟันแบบถาวร และบูรณะฟันให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

• รักษารากฟันใช้เวลานานเท่าไหร่

สำหรับการรักษารากฟัน ระยะเวลาในการรักษาจะขึ้นอยู่กับจำนวนรากของฟันซี่นั้นๆที่ติดเชื้อ รวมถึงสภาพฟันในขณะนั้น ว่ามีลักษณะอาการอยู่ในระดับไหน หากฟันซี่นั้นๆมีการติดเชื้อน้อย มีอาการอักเสบไม่มาก หรือมีคลองรากฟันที่ซับซ้อนกว่าปกติ และจำเป็นต้องนัดมาขยายคลองรากฟันอีกหลายครั้ง ทันตแพทย์ของสกายเทรนสามารถทำการรักษารากฟันให้เสร็จภายในวันนั้นได้ ใช้เวลาประมาณ1-2ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่ฟันจะแตกระหว่างรอรักษารากฟันในนัดครั้งถัดไป และยังส่งผลให้ทันตแพทย์สามารถทำการบูรณะฟันถาวรได้เร็วขึ้นอีกด้วย

• มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการรักษารากฟันบ้างไหม

ผลข้างเคียงหลังจากการรักษารากฟัน คนไข้อาจมีอาการปวดรอบๆบริเวณฟันที่ได้รับการรักษารากฟันอยู่หลายวัน บางคนอาจมีอาการบวมจนสามารถมองเห็นได้ชัด มีความรู้สึกว่าฟันไม่สบกันพอดีเหมือนก่อนหน้าที่จะรักษารากฟัน ซึ่งถ้ารู้สึกว่าฟันไม่สบกันก็ควรกลับไปพบทันตแพทย์อีกครั้ง เพื่อหาทางแก้ไขหรือตกแต่งรูปฟันให้สบกับฟันซี่อื่นได้พอดีกว่าเดิม

• อัตราความสำเร็จของการรักษารากฟันอยู่ที่เท่าไหร่

การรักษารากฟันสามารถแก้ปัญหาการติดเชื้อแบคทีเรียภายในโพรงประสาทฟันได้จริง อัตราความสำเร็จมากกว่า95% ซึ่งถือว่าสูงมาก รักษารากฟันครั้งนึงสามารถอยู่ได้นานตลอดทั้งชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าคุณดูแลรักษาฟันที่ได้รับการรักษารากฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด

• ต้องดูแลฟันที่ได้รับการรักษารากฟันยังไง

หลังจากการรักษารากฟัน ควรดูแลความสะอาดของฟันเป็นประจำ แปรงฟันอย่างน้อย2ครั้งต่อวัน ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย1ครั้งต่อวันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ในซอกฟันออก ถ้ากิจกรรมในแต่ละวันมีความเสี่ยงที่จะทำให้ฟันเกิดการกระทบกระเทือน อย่าลืมใส่ฟันยางเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเกิดรอยร้าวหรือแตกหัก
สุดท้ายก็คืออย่าลืมไปตรวจสุขภาพฟันและเหงือกเป็นประจำ ถ้ามีปัญหาติดเชื้ออีกจะได้รักษารากฟันทันที ทำให้ฟันเกิดความเสียหายน้อย บูรณะให้กลับมามีสภาพดีเหมือนเดิมได้ไม่ยาก

• หลังการรักษารากฟัน ทานอาหารแบบไหนได้บ้าง

หลังจากรักษารากฟันเสร็จเรียบร้อย ทันตแพทย์ก็จะแนะนำวิธีการดูแลฟัน ทั้งการทำความสะอาด และอาหารที่สามารถทานได้ ถ้ามีอาการปวดระบมบริเวณที่รักษารากฟัน สามารถทายาแก้ปวดได้ แต่ถ้าทานยาแก้ปวดแล้วอาการนี้ยังไม่หายไป ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด ก็คืออาหารที่มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างเยอะ ไม่งั้นคุณอาจจะต้องกลับมารักษารากฟันอีกครั้งก็ได้ถ้ายังทานอาหารเหล่านี้ต่อไป

• ฟันที่ได้รับการรักษารากฟันจะอยู่ได้นานเท่าไหร่

ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันและถูกบูรณะจนอยู่ในสภาพที่แข็งแรง มีการครอบฟันเพื่อป้องกันฟันแตก ก็จะอยู่ได้นานพอๆกับฟันธรรมชาติ เพราะฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมาจะไม่มีเส้นประสาทฟันแล้ว ทำให้เราไม่รับรู้ถึงแรงที่กดลงบนฟัน โดยเฉพาะฟันกรามที่มีโอกาสฟันแตกมากกว่าฟันซี่อื่นๆ เนื่องจากใช้ในการบดเคี้ยวที่ต้องใช้แรงกดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ฟันกรามที่เคยผุจนสูญเสียเนื้อฟันในส่วนนั้นไปไม่สามารถทนรับแรงกดนี้ได้ สุดท้ายฟันที่รักษารากฟันแต่ไม่ครอบฟันให้เรียบร้อยก็จะแตก และทันตแพทย์ก็จะทำการพิจารณาถอนฟันต่อไป

• ถ้าฟันซี่เดิมเกิดการติดเชื้ออีกครั้ง จะสามารถทำการรักษารากฟันซ้ำได้อีกไหม

หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่เนื้อเยื่อประสาทฟันอีกครั้ง สามารถทำการรักษารากฟันซ้ำได้ โดยมีขั้นตอนเหมือนเดิมทุกอย่างแต่อาจจะมีความยากในการรักษารากฟันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะเนื้อฟันหรือกระดูกรอบรากฟันเหลือน้อย ฟันซี่นั้นโยกมาก จนไม่สามารถรักษาและบูรณะกลับให้มาแข็งแรงแบบเดิมได้แล้ว ทันตแพทย์จึงจะพิจารณาถอนฟันซี่ที่มีปัญหาออก แล้วทำการใส่สะพานฟันหรือรากฟันเทียมแทนที่
หากต้องการปรึกษาหรือขอคำแนะนำสำหรับการทำสะพานฟันหรือใส่รากฟันเทียม ทางทีมทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ของสกายเทรนพร้อมที่จะให้คำแนะนำอยู่เสมอ

• ใครบ้างที่ไม่สามารถรักษารากฟันได้

ตามปกติแล้ว ทุกคนสามารถรักษารากฟันได้ ยกเว้นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเหงือก เป็นโรคปริทันต์รอบๆฟันที่มีปัญหา รากฟันแตก และไม่สามารถใช้เครื่องมือเข้าไปยังบริเวณรากฟันได้ ก็อาจจะต้องใช้วิธีอื่นในการรักษาหรือถอนฟันออกแทนการรักษารากฟัน

• ค่าใช้จ่ายในการรักษารากฟันคือเท่าไหร่

ค่าใช้จ่ายในการรักษารากฟันของสกายเทรน คิดตามชนิดของฟันที่มีปัญหาและวิธีที่ใช้ในการรักษารากฟัน โดยอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละสาขา โปรดสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกอีกครั้ง
– ฟันหน้า เริ่มต้นที่ 6,000 บาท
– ฟันกรามน้อย เริ่มต้นที่ 8,000 บาท
– ฟันกราม เริ่มต้นที่ 10,000 บาท
– รื้อรักษาใหม่ เพิ่มซี่ละ 1,000 บาท
– ผ่าตัดขูดหนองปลายราก เริ่มต้นที่ 2,000 บาท
– ผ่าตัดอุดปลายรากฟัน เริ่มต้นที่ 2,000 บาท
– ดึงประสาทฟัน 1,000 – 2,000 บาท

สำหรับโปรโมชั่นการรักษารากฟัน อาจจะต้องคอยติดตามผ่านทางเว็บไซต์ Facebook page หรือโทรสอบถามโดยตรงที่คลินิกแต่ละสาขา เจ้าหน้าที่ประจำคลินิกพร้อมให้ข้อมูลและรายละเอียดโปรโมชั่นทำฟันอยู่ตลอด ถ้าช้าไปนิดเดียวอาจจะพลาดการรักษารากฟันในราคาพิเศษก็ได้ ดังนั้นอย่าลืมกดไลค์ Facebook page ของสาขาที่ใกล้บ้านเพื่อติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด


เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการรักษารากฟันได้ ทางเลือกต่อไปสำหรับคนที่ต้องการมีรอยยิ้มสวยๆเหมือนเดิมก็คือ “ใส่รากฟันเทียม

ในส่วนของคนที่ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการรักษารากฟันได้ และจำเป็นที่จะต้องถอนฟันซี่ที่มีปัญหาออก ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำสะพานฟัน ฟันปลอม หรือใส่รากฟันเทียมแทนที่ฟันซี่เก่า ถ้าเปรียบเทียบข้อดีของทั้ง 3 อย่างแล้ว การใส่รากฟันเทียมจะมีประโยชน์และสะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด ซึ่งดีกว่าอย่างไรนั้น สามารถหาคำตอบและไขข้อสงสัยต่างๆที่มีได้ในคำถามด้านล่าง

• ถ้าถอนฟันออก แล้วจะใส่รากฟันเทียมเลยได้ไหม

สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการประเมินและวางแผนการรักษาจากทันตแพทย์ก่อน เพราะคนไข้แต่ละคนจะมีลักษณะกระดูกขากรรไกรไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะรองรับรากฟันเทียมได้เลย แต่บางคนอาจจะต้องมีการปลูกหรือเสริมกระดูกขากรรไกรก่อน จึงจะสามารถใส่รากฟันเทียมลงไปได้ คนไข้บางรายยังสามารถใส่ครอบฟันต่อได้เลย ทำให้ใช้เวลาในการใส่รากฟันเทียมน้อยมากๆเมื่อเทียบกับขั้นตอนปกติ ไม่ต้องรอแผลฟื้นฟูนาน เหมือนแผลจากการถอนฟันปกติทั่วไปเท่านั้น

• รากฟันเทียมคืออะไร ทำมาจากอะไร

รากฟันเทียม คือ วัสดุที่ทำมาจากไทเทเนียม มีลักษณะเป็นเกลียว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ต้องถอนฟันแท้ออก เพราะไม่สามารถรักษาให้กลับมาใช้งานเหมือนเดิมได้อีก รากฟันเทียมเลยทำหน้าที่เหมือนกับรากฟันแท้ โดยจะยึดเข้ากับกระดูกขากรรไกร และใส่ฟันเทียมที่สบกับฟันแท้ซี่อื่นได้พอดีลงไปในขั้นตอนสุดท้าย ทำให้การใส่รากฟันเทียมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้เหมือนก่อนหน้าที่จะถอนฟัน อีกทั้งยังดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับฟันแท้อีกด้วย

• รากฟันเทียมดีกว่าฟันปลอมยังไง

ข้อดีของรากฟันเทียมที่ฟันปลอมไม่มีก็คือ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลว่าฟันปลอมจะหลวม สะดวกสบาย พูดชัดเหมือนเดิม ฟันเทียมหรือครอบฟันที่สวมลงไปก็ดูธรรมชาติจนเหมือนกันฟันแท้ อยู่ได้นาน และสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาจนกล้าที่จะยิ้มในแบบที่เคย

• รากฟันเทียมดีกว่าทำสะพานฟันยังไง

ข้อดีของรากฟันเทียมก็คือ ฟันซี่ข้างเคียงไม่ได้รับความเสียหาย เนื้อฟันไม่โดนทำลาย เพราะถ้าเป็นสะพานฟันจะต้องอาศัยการยึดติดที่ฟันข้างเคียง ทำให้สูญเสียเนื้อฟันบางส่วนไปอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งยังไม่สามารถถอดออกมาได้เองเหมือนฟันปลอมที่ติดอยู่บนรากฟันเทียมด้วย

• รากฟันเทียมมี่กี่แบบ

รากฟันเทียมมีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ก็คือ แบบ endosteal และ subperiosteal

รากฟันเทียมแบบ endosteal จะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรเพื่อยึดตัวรากฟันเทียมให้อยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ไปมา เป็นรากฟันเทียมที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้ เพราะรากฟันเทียม1อัน สามารถรองรับครอบฟันหรือสะพานฟันได้ดี

รากฟันเทียมแบบ subperiosteal ปลายวัสดุจะอยู่เหนือหรือบนกระดูกขากรรไกร มักถูกใช้ในกรณีที่กระดูกขากรรไกรของคนไข้สูงไม่พอที่จะฝังรากฟันเทียมลงไป หรือคนไข้บางคนไม่ต้องการการปลูกกระดูกเพื่อเพิ่มมวลกระดูกขากรรไกร ที่จะช่วยรองรับการฝังรากฟันเทียมลงไป ก็สามารถเลือกใช้รากแบบนี้เหมือนกัน

• ใครที่สามารถทำรากฟันเทียมได้บ้าง

คนไข้ที่สามารถใส่รากฟันเทียมได้ กระดูกขากรรไกรเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ซึ่งกระดูกของมนุษย์จะเจริญเติบโตเต็มที่ตอนอายุประมาณ21ปี มีสุขภาพเหงือกที่ดี และมีมวลกระดูกขากรรไกรมากพอที่จะรองรับการฝังรากฟันเทียมลงไป สุขภาพร่างกายต้องแข็งแรง สามารถรับการรักษาอย่างต่อเนื่องได้

ส่วนคนไข้ที่ไม่สามารถใส่รากฟังเทียมได้ ก็จะเป็นคนที่สูบบุหรี่จัด มีอาการของโรคทางจิตเวช เป็นโรคเบาหวาน มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ดังนั้น ก่อนจะใส่รากฟันเทียม ทันตแพทย์ก็จะประเมินความพร้อมของคนไข้และความเสี่ยงที่มีก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรจึงจะสามารถใส่รากฟันเทียมได้

• ถ้ามวลกระดูกขากรรไกรไม่พอที่จะรองรับรากฟันเทียม ต้องทำยังไง

ถ้ามวลกระดูกขากรรไกรมีไม่พอที่จะรองรับรากฟันเทียม ก็จะมี3วิธีที่จะช่วยให้ใส่รากฟันเทียมได้แบบไม่มีปัญหา นั่นก็คือ

วิธีที่ 1 : Bone augmentation คือ การปลูกกระดูกเพื่อเพิ่มมวลกระดูกขากรรไกรให้มีมากพอที่จะรองรับรากฟันเทียม

วิธีที่ 2 : Sinus lift คือ การเสริมกระดูกไซนัส เพื่อเพิ่มมวลกระดูกขากรรไกรบนให้มีมากพอที่จะรองรับรากฟันเทียม

วิธีที่ 3 : Ridge expansion คือ การขยายความกว้างของกระดูกขากรรไกรให้เพียงพอที่จะรองรับรากฟันเทียม โดยจะเป็นการปลูกกระดูกหรือนำกระดูกส่วนอื่น(เช่น กระดูกบริเวณสะโพก)มาเสริมให้กับกระดูกขากรรไกร จนสามารถที่จะรองรับการฝังรากฟันเทียมได้

• ทันตแพทย์ที่รับผิดชอบในการใส่รากฟันเทียม ต้องเป็นทันตแพทย์เฉพาะทางหรือเปล่า

ในการใส่รากฟันเทียมจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ระหว่างทันตแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระดูกและช่องปาก กับทันตแพทย์ด้านทันตกรรมประดิษฐ์ จะช่วยกันวางแผนการรักษาในแต่ละขั้นตอนร่วมกับปรึกษากับคนไข้ ว่าต้องการให้ผลลัพธ์การใส่รากฟันเทียมออกมาในรูปแบบไหน ใช้วัสดุอะไร จะใส่ฟันเทียม สะพานฟัน หรือครอบฟัน จนในที่สุดก็ได้แผนการรักษาที่มีอัตราความสำเร็จสูงที่สุด ซึ่งทีมทันตแพทย์ของสกายเทรนมีผู้ที่จบเฉพาะทางใน2สาขาดังกล่าวโดยเฉพาะ แผนการรักษาสำหรับคนไข้แต่ละคนจึงมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงน้อยมากๆ และสามารถฝังรากฟันเทียมได้สำเร็จ

• การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฝังรากฟันเทียม

ก่อนฝังรากฟันเทียม1อาทิตย์ งดสูบบุหรี่และงดการดื่มแอลกอฮอล์ ดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากให้ดี และถ้ามีการทานยา อาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด ควรงดก่อนเข้าผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพราะอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เลือดออกเยอะมากกว่าปกติ เพิ่มความเสี่ยงให้กับการผ่าตัดฝังรากฟังเทียมให้มีมากขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีกับการผ่าตัดเลย สุดท้ายก็อย่าลืมดื่มน้ำและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

• ถ้าคนไข้กลัว สามารถขอใช้ยาสลบแทนยาชาได้หรือเปล่า

คนไข้สามารถแจ้งทันตแพทย์ได้เลยว่ามีความกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดฝังรากเทียม ทันตแพทย์จะประเมินระดับความกังวลว่ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีความกังวลเล็กน้อยก็อาจจะใช้เพียงแค่ยาคลายกังวลร่วมกับยาชา แต่ถ้าคนไข้ที่จะเข้าผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมีความกังวลมาก อาจจะต้องใช้ยาสลบแทน ซึ่งคนไข้ต้องมีการงดน้ำและอาหารก่อนที่จะดมยาสลบ

สำหรับผู้ที่มาใช้บริการที่คลินิกของสกายเทรนทุกสาขา ไม่ต้องกังวลในเรื่องการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพราะทีมทันตแพทย์ของเรามีประสบการณ์และมีฝีมือ ใจดี ขอคำปรึกษาได้ตลอด กู้คืนรอยยิ้มสวยๆให้กับคุณได้แน่นอน

• ขั้นตอนการใส่รากฟันเทียมมีอะไรบ้าง

ขั้นตอนแรกหลังจากที่คนไข้แจ้งว่าต้องการใส่รากฟันเทียม ทันตแพทย์จะเอ็กซเรย์ช่องปากหรือสแกนภาพ 3D เพื่อจำลองตำแหน่งฟันและเหงือกให้เห็นภาพ ใช้ในการวางแผนการรักษา มีการตรวจสุขภาพฟันและเหงือก สอบถามประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด เพื่อประเมินความเสี่ยงในการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม

ถ้ากระดูกขากรรไกรของคนไข้ไม่สามารถรองรับรากฟันเทียมได้ ก็จะมีกระบวนการปลูกหรือเสริมกระดูกก่อน พอกระดูกเจริญเติบโตเต็มที่แล้วถึงจะนัดวันผ่าตัดใส่รากฟันเทียมอีกที

สำหรับคนไข้ที่ต้องดมยาสลบต้องงดน้ำและอาหารมาก่อนการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม พอยาเริ่มออกฤทธิ์ ทันตแพทย์ก็จะเริ่มการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมทันที โดยจะทำการกรีดเปิดเหงือกลึกไปจนถึงกระดูกขากรรไกร จากนั้นก็จะใช้เครื่องมือคล้ายสว่านเจาะกระดูกขากรรไกร เพื่อเตรียมพื้นที่ไว้รองรับรากฟันเทียม

เมื่อทันตแพทย์ฝังรากฟันเทียมเรียบร้อยแล้ว จะใส่ healing cap ครอบไว้ที่ส่วนบนของราก มีลักษณะคล้ายกับน็อต ช่วยป้องกันไม่ให้เศษอาหารตกลงไปในรูของรากฟันเทียม และยังช่วยให้เหงือกมีลักษณะที่พร้อมกับการใส่ครอบฟันอีกด้วย

ใช้เวลาประมาณ 2-6 เดือนเพื่อรอให้กระดูกและเหงือกสมานตัว รากฟันเทียมที่ใส่ไปก็จะรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับกระดูกขากรรไกรโดยสมบูรณ์ ซึ่งแต่ละคนที่ใส่รากฟันเทียมจะใช้เวลาในช่วงนี้ไม่เท่ากัน บางคนแผลสมานตัวได้เร็ว บางคนแผลสมานตัวได้ช้า ดังนั้นจึงควรไปพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าเป็นระยะๆ

ขั้นตอนต่อจากนั้นจะเป็นการใส่เดือยลงไปที่บริเวณด้านบนของรากฟันเทียม เตรียมที่จะรองรับฟันปลอมหรือครอบฟัน ซึ่งสามารถใส่ลงไปได้ทันที ทันตแพทย์จะเช็กว่าตัวฟันปลอมที่ใส่ลงไปบนรากฟันเทียมพอดีกับฟันซี่อื่นๆหรือเปล่า โดยฟันบนกับฟันล่างต้องสบกันพอดี ไม่มีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร

มีการติดตามผลเป็นระยะ ซึ่งคนไข้ควรไปตามที่ทันตแพทย์นัดทุกครั้ง หากมีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขได้ทัน จนกระทั่งรากฟันเทียม เดือย และฟันปลอมที่ใส่ลงไปอยู่ตัว คนไข้สามารถใช้งานได้ตามที่ต้องการ ถึงจะเรียกว่าการฝังรากฟันเทียมครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ

• หลังจากใส่รากฟันเทียมเรียบร้อยแล้ว จะรู้สึกเจ็บนานแค่ไหน

แน่นอนว่าการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมต้องมีอาการปวดระบมและรู้สึกเจ็บที่แผล ดังนั้นหลังจากที่เสร็จสิ้นการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมแล้ว ทันตแพทย์จะแนะนำให้ประคบน้ำแข็งหรือเจลเย็นบริเวณที่ใส่รากฟันเทียมลงไป จะช่วยลดอาการบวมได้ ส่วนอาการเจ็บปวดจะค่อยๆหายไปเอง ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายเราสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วแค่ไหน และระหว่างที่ยังปวดแผลผ่าตัดใส่รากฟันเทียมอยู่ ก็สามารถทานยาแก้ปวดที่ทันตแพทย์ให้มาได้

• ความเสี่ยงของการทำรากฟันเทียม

ในการผ่าตัดแต่ละครั้งก็จะมีความเสี่ยงอยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมด้วยเช่นกัน ได้แก่
1. เส้นประสาท เส้นเลือดฝอย ฟัน และเหงือกรอบๆบริเวณที่ฝังรากฟันเทียมอาจถูกทำลาย
2. อาจเกิดการติดเชื้อจากการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมได้
3. รากฟันเทียมไม่สามารถเข้ากับกระดูกขากรรไกรได้ ทำให้ต้องมีการผ่าตัดอีกครั้ง

ดังนั้น ในขั้นการวางแผนการรักษา ทีมทันตแพทย์ของสกายเทรนจึงใส่ใจทุกรายละเอียด คำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก คอยติดตามอาการตั้งแต่ก่อนผ่าตัดใส่รากฟันเทียมจนกระทั่งใส่ฟันปลอม เพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการฝังรากฟันเทียมได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเติมเต็มความต้องการได้ตามที่ได้ตั้งความหวังไว้

• ต้องดูแลรักษารากฟันเทียมยังไง

หลังจากผ่าตัดใส่รากฟันเทียมเสร็จแล้ว ต่อไปจะเป็นการรอให้เนื้อเยื่อและกระดูกขากรรไกรค่อยๆสมานตัว ระหว่างนั้นคนไข้ก็จำเป็นต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เรื่องความสะอาดของฟันและช่องปาก แปรงฟันอย่างน้อยวันละ2ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันอย่างวันละครั้ง อาจจะใช้น้ำยาบ้วนปากด้วยก็ได้เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย ทานยาตามที่ทันตแพทย์สั่ง และไปตามนัดทุกครั้ง

• ทานอะไรได้บ้างหลังจากใส่รากฟันเทียม

เรื่องอาหารการกินในช่วงแรกๆหลังจากผ่าตัดใส่รากฟันเทียม ควรทานอาหารอ่อนๆนิ่มๆ อย่าใช้แรงบดเคี้ยวลงไปที่บริเวณแผลผ่าตัด เพราะอาจส่งผลกระทบกับรากฟันเทียมได้ เป็นไปได้ก็ให้เคี้ยวอีกข้างที่ไม่มีแผลแทนจะดีกว่า แล้วอย่าลืมทานอาหารจำพวกโปรตีนและแคลเซียมเยอะๆ แผลผ่าตัดใส่รากฟันเทียมจะได้ฟื้นตัวไวๆ ที่สำคัญก็คือห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด ไม่งั้นที่ใส่รากฟันเทียมไปอาจจะมีปัญหา และต้องผ่าตัดซ้ำอีกครั้งก็เป็นได้

• รากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน

ปกติแล้วรากฟันเทียมจะอยู่ได้นานมากๆ 10-20ปีเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของคนไข้ด้วยว่าทำตามที่ทันตแพทย์แนะนำหรือเปล่า มีการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือไม่ การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นยังไง ชอบทานขนมขบเคี้ยวที่กรอบหรือแข็งเกินไปหรือเปล่า ปัจจัยพวกนี้จะส่งผลต่ออายุการใช้งานของรากฟันเทียมโดยตรง แม้วัสดุที่ทำเป็นรากฟันเทียมกับฟันปลอมจะแข็งแรงแค่ไหน แต่ถ้าดูแลไม่ดีก็จะเสื่อมสภาพเร็วและอาจเกิดปัญหาตามมาอีก

• ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากใส่รากฟันเทียม มีอะไรบ้าง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในคนไข้บางรายที่ใส่รากฟันเทียมแล้ว ก็จะมีอาการเจ็บเหงือก เจ็บฟันซี่ที่อยู่ใกล้ๆกับบริเวณที่ฝังรากฟันเทียม และเหงือกบวม ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเอง หากมีอาการผิดปกติที่นอกเหนือจากนี้ แนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูบริเวณแผลให้ละเอียดอีกครั้ง

• ใส่รากฟันเทียมแล้วสามารถฟอกสีฟันได้หรือเปล่า

หากมีการใส่รากฟันเทียม เดือย และฟันปลอมเรียบร้อยแล้ว การฟอกสีฟันยังคงสามารถทำได้อยู่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่เหมือนก่อนหน้านี้ เพราะวัสดุที่ใช้ทำเป็นฟันปลอมอาจจะมีสีแตกต่างจากฟันที่ฟอกสีแล้ว จึงควรเลือกวัสดุที่ใช้ทำฟันปลอมให้มีสีสว่างกว่าฟันแท้ซี่อื่นๆเล็กน้อย เวลาฟอกสีฟันจะได้ไม่ต่างกันมากนัก

• ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการทำรากฟันเทียม

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเคสนั้นๆ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม ชนิดของรากฟันเทียม จำนวนฟันปลอมที่ต้องการประกอบลงบนรากฟันเทียม เป็นต้น
– รากฟันเทียม จะเริ่มต้นที่ 45,000 บาท
– ใส่เดือยฟัน จะอยู่ที่ 3,500 – 4,000 บาท
– ครอบฟันชั่วคราว จะเริ่มต้นที่ 2,000 บาท
– ครอบฟัน จะเริ่มต้นที่ 10,000 บาท
– ฟันปลอมแบบถอดได้ (1-2ซี่ติดกัน) เริ่มต้นที่ 6,000 บาท

สำหรับคลินิกสกายเทรน ค่ารักษาในแต่ละสาขาอาจจะมีราคาที่แตกต่างกันไปบ้าง ลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกได้ตลอด
และทั้งหมดนี้คือคำถามที่พบบ่อยสำหรับการรักษารากฟัน การใส่รากฟันเทียม เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อไขข้อสงสัยของผู้ที่มีความต้องการที่จะรักษารากฟันหรือใส่รากฟันเทียม และนำไปประกอบการตัดสินใจได้ด้วย หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่คลินิกสกายเทรนทุกสาขา

ซึ่งช่องทางการติดต่อของคลินิกสกายเทรนแต่ละสาขา ได้ถูกรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของสกายเทรนแล้ว สามารถโทรติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดและปรึกษาแผนการรักษาฟังได้ทุกช่องทาง และยังสามารถทำนัดได้ทันทีอีกด้วย เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าที่มาใช้ทุกท่าน เราพร้อมที่จะให้บริการตามสโลแกน “ฟันสวย ยิ้มสดใส ใส่ใจคุณภาพ” อยู่เสมอ

ที่มา :
รักษารากฟัน wedmd.com / nhs.uk / medicalnewstoday.com / aae.org
รากฟันเทียม webmd.com / efp.org / healthdirect.gov.au

Share:
โปรทำฟัน
โปรจัดฟัน
เลือกสาขา